ครีมสเต็มเซลล์เริ่มต้นมาได้อย่างไรกัน

ในแวดวงความงาม ความอัศจรรย์ของสเต็มเซลล์มีความหวังที่จะสามารถนำเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้จากพืชหรือสัตว์ มาใส่เป็นส่วนผสมของครีมสเต็มเซลล์ โดยอ้างว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์ผิวหนังใหม่คล้ายผิวทารก แต่แท้จริงแล้ว การเลี้ยงเซลล์ต้นกำเนิดต้องใช้อาหารเพาะเลี้ยงชนิดพิเศษ ควบคุมอุณหภูมิ ความเป็นกรดด่างอย่างดี ดังนั้นเซลล์ต้นกำเนิดที่อยู่ในครีมสเต็มเซลล์จึงไม่สามารถมีชีวิตและเติบโตแบ่งตัวได้ ยิ่งถ้าเป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากรกสัตว์ แกะ วัว หรือทารก ยิ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคปนเปื้อนแพ้ระคายเคือง เป็นอันตรายได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเทคโนโลยีสเต็มเซลล์จะไม่มีประโยชน์ต่อวงการความงาม เพราะนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า แม้ไม่สามารถนำสเต็มเซลล์ที่มีชีวิตมาเป็นส่วนผสมในครีมสเต็มเซลล์ได้ แต่การเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์จากพืชโดยใช้อาหารเพาะเลี้ยงพิเศษ สามารถช่วยให้สเต็มเซลล์ที่เลี้ยงในห้องทดลองสามารถผลิตสารสำคัญที่มีประโยชน์ออกมาได้มาก แล้วจึงสกัดสารสำคัญจากสเต็มเซลล์มาใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง ทดแทนการใส่สเต็มเซลล์โดยตรง ซึ่งผลที่ได้นับว่าได้ผลและยังมีความปลอดภัย

เช่นงานวิจัยล่าสุดที่พบว่าสเต็มเซลล์ที่ได้จากส่วนใบของมะเขือเทศสายพันธุ์ Lycopersicon esculentum มาเพาะเลี้ยงและสกัดสารสำคัญออกมา พบว่า สารสกัดจากสเต็มเซลล์มะเขือเทศที่ได้จากส่วนใบ กลับอุดมไปด้วยสารสำคัญมากเสียยิ่งกว่าที่พบในผลมะเขือเทศ โดยมีทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ และไฟโตคีเลทินส์ สารจากพืชที่มีฤทิธ์ต้านโลหะหนักมีพิษในมลภาวะ เช่น ตะกั่ว นิกเกิล จึงป้องกันสาเหตุหลักของการทำร้ายเซลล์ผิว ดีเอ็นเอ และคอลลาเจนในผิว ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวสร้างโปรตีนยืดอายุเซลล์ผิวอีกด้วย”

ก่อนเลือกซื้อครีมสเต็มเซลล์ตามคำโฆษณา ผู้ใช้ควรรู้เท่าทันส่วนผสมต่างๆ ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวว่าจะให้ผลลัพธ์ตามประสิทธิภาพที่กล่าวอ้าง และมีความปลอดภัยจริงหรือไม่..